คนที่มักตาสว่างเวลากลางคืน และชอบอยู่โยงจนดึกดื่นกว่าจะเข้านอน หากมีเหตุให้ต้องตื่นเช้าเหมือนกับคนส่วนใหญ่ก็จะเกิดอาการนอนไม่พอ สมองไม่แจ่มใส อ่อนเพลีย นำไปสู่การเกิดสารพัดโรคติดตามมาในระยะยาวได้ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซอร์รีย์และมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมของสหราชอาณาจักร รวมทั้งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโมนาชของออสเตรเลีย ตีพิมพ์ผลการศึกษาข้างต้นในวารสารการแพทย์ Sleep Medicine หลังทำการทดลองกับกลุ่มคนที่นอนดึกจนเป็นนิสัย 21 คน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วคนเหล่านี้มักเข้านอนในเวลา 02.30 น. และตื่นนอนในเวลา 10.00 น. เป็นประจำ
กลุ่มผู้เข้ารับการทดลองต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้วิจัยเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อปรับนาฬิการ่างกายให้เดินเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยมีข้อบังคับดังต่อไปนี้ :
1.ตื่นนอนให้เร็วขึ้นกว่าเดิม 2-3 ชั่วโมง และต้องออกไปกลางแจ้งเพื่อรับแสงแดดยามเช้าให้เพียงพอ
2.เมื่อตื่นแล้วให้กินอาหารเช้าโดยเร็วที่สุด
3.ออกกำลังกายในตอนเช้าเท่านั้น
4.กินอาหารกลางวันให้ตรงเวลาทุกวันและไม่กินอะไรอีกหลังเวลา 19.00 น.
5.ไม่รับกาเฟอีนเข้าร่างกายหลังเวลา 15.00 น.
6.เข้านอนเร็วกว่าเดิม 2-3 ชั่วโมง ไม่เปิดไฟสว่างจ้าหรือจ้องมองแสงจ้าในยามค่ำคืน
7.พยายามรักษาวงจรการหลับและตื่นให้คงที่ตามเวลาเดิมทุกวัน
ศ.เดบรา สกีน ผู้นำทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมบอกว่า แม้วิธีนี้จะฟังดูเหมือนคำแนะนำเพื่อปรับปรุงคุณภาพการนอนโดยทั่วไป แต่ก็ช่วยให้สุขภาพกายและจิตของคนนอนดึกดีขึ้นอย่างมาก ทั้งยังป้องกันการเกิดโรคร้าย เช่น มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเกิดจากการนอนไม่พอและนาฬิการ่างกายรวน
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.bbc.com