สูตร Mix and Match วัคซีน จากความเห็น ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล หลังมีการพูดถึงแนวทางการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิในเข็มที่ 2 และ 3 โดยเปลี่ยนยี่ห้อวัคซีน โดยยึดจากสถานการณ์จริงของคนที่ฉีดวัคซีนในไทย ที่ตอนนี้มีอยู่ 4 แบบ คือ
- ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้ว 1 เข็ม
- ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้ว 2 เข็ม
- ฉีดซิโนแวคไปแล้ว 1 เข็ม
- ฉีดซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม
และวัคซีนที่มีความเป็นไปได้ว่าจะฉีดกระตุ้นภูมิของไทย คือวัคซีนโมเดอร์นา ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกที่มีความชัดเจนแล้วว่าจะได้ฉีดในช่วงปลายปี 2564 นี้
ศ.นพ.มานพ กล่าวว่า การศึกษาในต่างประเทศเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 คนละยี่ห้อกับเข็มแรก เป็นการทดสอบในวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งหากจะนำมาปรับใช้ในไทย สามารถใช้วัคซีนโมเดอร์นาแทน เนื่องจากการเป็นวัคซีน mRNA เหมือนกันและการศึกษาวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน และสูตรการฉีดที่ทำได้ คือ ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าในเข็มที่ 1 และฉีดโมเดอร์นาในเข็มที่ 2 ห่างกัน 4 – 8 สัปดาห์ โดยเทียบเคียงผลการศึกษาของไฟเซอร์ที่พบว่ากระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีมาก ส่วนความเป็นไปได้ในกรณีอื่นๆ จากสถานการณ์ของไทย คือ
- ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้ว 2 เข็ม และกระตุ้นด้วย โมเดอร์นา
- ฉีดซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม สามารถฉีดโมเดอร์นากระตุ้นภูมิได้
- ฉีดซิโนแวคไปแล้ว 1 เข็ม สามารถฉีดโมเดอร์นา อีก 2 เข็มได้
แต่ในเรื่องของระยะห่างระหว่างเข็มที่ 2 และ 3 ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แล้วแต่กรณี และขึ้นอยู่กับแพทย์แนะนำ ความการกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันยังไม่มีการศึกษา
ส่วนอีกกรณี คือ การฉีดซิโนแวค 3 เข็ม ศ.นพ.มานพ ระบุว่า วัคซีนซิโนแวคเป็นวัคซีนเชื้อตาย ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่ากระตุ้นภูมิได้ไม่ดี และหากต้องการกระตุ้นภูมิคุ้มกันควรเป็นวัคซีนชนิด mRNA
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : workpointtoday , lifestyle