เขียนเมื่อ : วันพุธ ที่ 5 เดือน กรกฎาคม พ.ศ.2560 | อ่านแล้ว : 761 ครั้ง

เตือนแซ่บอีสาน"ปลาร้า" กินดิบเสี่ยงมะเร็งท่อน้ำดีถึงตาย!


ศุภชัย โพธิ์สุ อดีต ส.ส.นครพนม ร่วมในงานกิจกรรมรณรงค์ที่ อ.ศรีสงคราม 3 ปีก่อน เรารับรู้กันว่ากินอาหารสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะปลาน้ำจืดในวงศ์ปลาตะเพียน เสี่ยงต่อการเป็นพยาธิใบไม้ในตับ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีการพูดถึงการเชื่อมโยงกันของ "พยาธิใบไม้ในตับ" กับ"มะเร็งท่อน้ำดี" แม้ว่าองค์ความรู้ในปัจจุบันจะชี้ชัดแล้วว่า การติดพยาธิใบไม้ในตับเป็นปัจจัยเสี่ยงของ "โรคมะเร็งท่อน้ำดี" ในประเทศไทย โรคที่เป็นมากอันดับ 1 ในทั้งผู้ชายและผู้หญิง ตัวเลขของคนอีสานที่เสียชีวิตเพราะมะเร็งท่อน้ำดีมีมากถึงปีละ 14,000 คน ถ้ายังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ในอีก 20-30 ปีข้างหน้าอัตราการเสียชีวิตนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 คนต่อปีที่น่าสนใจ องค์การอนามัยโลกจัดให้โรคมะเร็งท่อน้ำดีและโรคพยาธิใบไม้ตับอยู่ในประเภท "โรคที่ถูกปล่อยปละละเลย"

ขณะที่ "มะเร็งท่อน้ำดี" เกิดจากการติดพยาธิใบไม้ในตับอย่างยาวนาน ซึ่งสถิติจากการสำรวจของโรงพยาบาลศรีนครินทร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น พบว่าผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีมีมากถึง 75% เมื่อเทียบกับมะเร็งตับ

แม้ว่า มะเร็งท่อน้ำดีจะเป็นโรคที่น่ากลัว เพราะเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของคนอีสาน ทั้งในผู้ชายและผู้หญิงด้วย แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยวิธีง่ายๆ

1.การกินอาหารที่สุก

2.เข้ารับการตรวจร่างกาย แค่ตรวจอุจจาระก็จะทราบแล้วว่ามีพยาธิอยู่ในร่างกายเราหรือเปล่า ถ้ามี กินยาก็หายได้

"พยาธิใบไม้ในตับนั้น ถ้าอยู่ในร่างกายเรา 10 ปี แล้วเราทราบก็ยังรักษาได้ทัน ฉะนั้นสิ่งที่มูลนิธิรณรงค์คือ ให้ทุกคนได้เข้ารับการอัลตราซาวด์เพื่อตรวจหาร่องรอยของโรคก่อนจะสายเกินไป ซึ่งถ้าร่างกายปรากฏอาการตัวเหลือง พุงป่อง ผิวซีด ฯลฯ เรียกว่ามาไกลเกินไปแล้ว มาถึงขั้นสุดท้ายของมะเร็งท่อน้ำดีแล้ว"

(ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ผศ.พญ.เนตรเฉลียว สัณฑ์พิทักษ์ ประธานมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี)