เขียนเมื่อ : วันพุธ ที่ 21 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2560 | อ่านแล้ว : 735 ครั้ง
โรคท้องผูก เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย
โรคท้องผูก เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งผลของการเกิดอาการท้องผูกนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการเลือกกินอาหาร โดยเฉพาะในเด็กเล็กไม่ค่อยชอบกินผัก ซึ่งผักนั้นเป็นอาหารที่มีวิตามินและเกลือแร่สูงซึ่งสังเกตได้ง่ายๆ ว่าคนที่ชอบกินเนื้อสัตว์มากกว่ากินผักมักจะมีอาการท้องผูกเป็นประจำ
อาการท้องผูกเกิดจากการที่มีอุจจาระตกค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่นานเกินกว่าปกติ จึงส่งผลให้ลำไส้ไม่มีการบีบตัวและคลายตัว ซึ่งโดยปกติแล้วคนเราจะต้องถ่ายอุจจาระภายในเวลา 12-72 ชั่วโมง หลังจากการกินอาหารแล้ว ฉะนั้นการเลือกกินอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง เช่น ผักทุกชนิดหรือผักสีเขียวนั้น จะช่วยต้านทานน้ำย่อยหรือดุดน้ำในลำไส้ได้ดี ทำให้กากอาหารมีขนาดใหญ่ขึ้น และเร่งกระตุ้นให้ร่างกายขับอุจจาระออกมา
ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่มักเป็นโรคท้องผูกนั้น อาจเกิดจากความเร่งรีบในการกินอาหารซึ่งไม่ถูกหลักโภชนาการ หรือเมื่อมีอาการปวดท้องแล้วกลั้นไว้ไม่ยอมถ่ายจนติดเป็นนิสัย ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานผิดปกติ ไม่ชอบออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานเป็นปกติ เลือกใช้วิธีการสวนทวารเป็นประจำ เกิดจากการดื่มน้ำในแต่ละวันน้อยเกินไป เพราะการดื่มน้ำมากๆจะช่วยเร่งการบีบตัวของลำไส้ได้เร็วขึ้น การปล่อยให้เกิดอาการท้องผูกบ่อยๆ อาจส่งผลต่อการเกิดโรคริดสีดวงทวาร โรคลำไส้อุดตัน และอาจส่งผลระยะยาวต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้เช่นกัน
วิธีการดูแลตัวเองไม่ให้เกิดอาการท้องผูกนั้น
ควรเลือกกินอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูงเป็นประจำ เช่น ผักสีเขียว ผลไม้ที่มีเส้นใยสูงหรือมีรสเปรี้ยว
ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว โดยเฉพาะหลังตื่นนอนตอนเช้าควรดื่มน้ำสะอาดทันทีครั้งละ 1-2 แก้ว เพื่อเร่งให้ลำไส้ขับถ่ายอุจาระได้เร็วขึ้น
หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะช่วยเร่งให้ระบบขับถ่ายทำงานเร็วขึ้น
พยายามกินอาหารให้ตรงเวลา
หากรู้สึกปวดท้องถ่าย ให้รีบถ่ายทันทีอย่ากลั้นไว้ เพราะจะทำให้ลำไส้อุดตันได้หมั่นกินอาหารให้ตรงเวลาเพื่อให้ระบบขับถ่ายทำงานปกติ
ผู้ที่มีอาการท้องผูกบ่อยๆ หรือท้องผูกเป็นประจำมักจะมีอาการปวดศรีษะ อ่อนเพลียและหงุดหงิดง่าย ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่ง ลมปากเหม็นและรู้สึกขมในปาก ถ้าได้ถ่ายอุจจาระออกแล้วอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเอง
(ขอบคุณที่มา : กินดี อยู่ดี อายุยืน : 104)