ข่าวทั่วไป

เขียนเมื่อ : วันพุธ ที่ 1 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2564 | อ่านแล้ว : 2,987 ครั้ง

โมเดอน่าคาดประสิทธิภาพวัคซีนที่มีอยู่ลดลงมากในการต้านทานโอไมครอน


  Moderna เตือนประสิทธิภาพวัคซีนโควิดที่มีอยู่จะลดลงมากในการต้านทานโอไมครอน คาดใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะผลิตวัคซีนใหม่ได้

  สเตฟาน แบนเซล ซีอีโอของบริษัทยา Moderna
ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว Financial Times เตือนประสิทธิภาพของวัคซีนโควิดที่มีอยู่จะลดลงมากในการใช้ต้านทานเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เมื่อเทียบกับโควิดสายพันธุ์เดลตาหรือสายพันธุ์อื่นๆ

  การที่นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากมีความกังวล เนื่องจากการกลายพันธุ์ของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน จำนวน 32 จุด จาก 50 จุด ที่เกิดขึ้นบริเวณโปรตีนหนามของไวรัส ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในเซลล์ร่างกายมนุษย์ ถือเป็นจุดที่วัคซีนทำการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเพื่อต้านทานไวรัส นายแบนเซลกล่าว

  นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่าการกลายพันธุ์ในระดับสูงเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกใน 1 หรือ 2 ปีข้างหน้า โดยเขาคาดการณ์ว่าบริษัทยาต่างๆ จะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน กว่าที่จะสามารถผลิตวัคซีนสำหรับเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ได้

  ขณะที่การแพร่ระบาดที่รวดเร็วของโอไมครอนในแอฟริกาใต้ยังเป็นข้อบ่งชี้ว่า วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจจำเป็นต้องมีการปรับปรุงเพื่อรับมือไวรัสสายพันธุ์นี้ในปีหน้า

  ประสิทธิภาพของวัคซีนจะอยู่ในระดับเดิม เหมือนที่เรามีกับสายพันธุ์เดลตาคงไม่ง่ายนัก คงจะมีการลดส่วนประกอบวัคซีนลง แต่ไม่รู้ว่ามากแค่ไหน เพราะบริษัทจำเป็นต้องรอข้อมูล แต่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก นายแบนเซลกล่าว

  ท่าทีของซีอีโอ Moderna ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังตลาดการเงิน และสร้างความกังวลแก่นักลงทุนในเอเชีย ซึ่งตลาดหุ้นและราคาน้ำมันดิบพากันร่วงลง โดยดัชนีหุ้น Nikkei 225 ของญี่ปุ่น ร่วงลงกว่า 1.1% หลังปรากฏรายงานข่าวจาก Financial Times ขณะที่ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง ร่วงลง 2.3% ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลงเกือบ 2% อยู่ที่ 72.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ตลาดหุ้นไทยเองก็ลดลงอีกราว 1.32% สู่ระดับ 1,568.69 จุดในวันที่ 30 พ.ย. 2564

  Sinovac พร้อมผลิตวัคซีนโควิดป้องกันโอไมครอนหากมีความจำเป็น

  Sinovac หนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนโควิดสัญชาติจีนแสดงความเชื่อมั่นว่า บริษัทสามารถผลิตวัคซีนที่จะใช้ป้องกันโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในปริมาณมากและรวดเร็วได้ หากมีความจำเป็น ซึ่งอาจจะมีการพัฒนาวัคซีนขึ้นใหม่

  บริษัท Sinovac ระบุว่า เทคโนโลยีกับการผลิตนั้นเหมือนกันกับไวรัสที่เกิดมาก่อนหน้า และการศึกษาวิจัยวัคซีนนั้นสามารถเตรียมการได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่แยกสายพันธุ์ออก การผลิตนั้นไม่ใช่ปัญหา

  มันยังเร็วไปที่จะบอกว่าเวลานี้จำเป็นต้องพัฒนาและผลิตวัคซีนแยกต่างหากสำหรับไวรัสสายพันธุ์นี้ Sinovac เผยด้วยว่ากำลังติดตามผลการศึกษาและรวบรวมตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนผ่านทางเครือข่ายพาร์ตเนอร์ทั่วโลก เพื่อดูว่าจำเป็นต้องมีวัคซีนใหม่หรือไม่

  ก่อนหน้านี้ Sinovac ได้พัฒนาวัคซีนเชื้อตายที่ใช้ต่อต้านไวรัสสายพันธุ์แกมมาและเดลตา แต่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนการออกแบบวัคซีนเดิม ซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ก่อนหน้า

  ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ในแอฟริกาเป็นผู้ค้นพบไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนครั้งแรก โดยไวรัสมีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งบนโปรตีนส่วนหนาม ซึ่งส่งผลต่อวิธีที่ไวรัสเข้าสู่เซลล์ร่างกายมนุษย์ อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนตัวที่พัฒนามาก่อนหน้า ซึ่งสร้างความวิตกกังวลว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้อาจแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้นและดื้อวัคซีน ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดโอไมครอนอยู่ในสายพันธุ์ที่น่ากังวล



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : thunkhaotoday