เขียนเมื่อ : วันพฤหัสบดี ที่ 14 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2560 | อ่านแล้ว : 2,122 ครั้ง

รู้ไว้ให้ระวัง "กระเพาะปัสสาวะอักเสบ" เป็นแล้วทรมาน


     โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบพบได้ทั้งจากการอักเสบเฉียบพลัน ที่มีอาการเกิดขึ้นทันทีและรักษาหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ หรือจากการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งผู้ป่วยมักมีอาการอักเสบเรื้อรังเป็นๆ หายๆ แต่จะมีอาการรุนแรงน้อยกว่าการอักเสบเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการขัดเบา คือ ถ่ายปัสสาวะกะปริดกระปรอย (ออกมาทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง) รู้สึกปวดขัดหรือแสบร้อนเวลาถ่ายปัสสาวะ โดยเฉพาะตอนถ่ายปัสสาวะสุด มักต้องเข้าห้องน้ำทุกชั่วโมงหรือชั่วโมงละหลายครั้ง ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดที่ท้องน้อยหรือบริเวณหัวหน่าวร่วมด้วย ปัสสาวะอาจมีกลิ่นเหม็น สีมักใส แต่บางรายปัสสาวะอาจมีสีขุ่นหรือมีเลือดปน มักไม่มีไข้ ส่วนในเด็กเล็กอาจมีอาการปัสสาวะรดที่นอนและอาจมีไข้ เบื่ออาหาร อาเจียนร่วมด้วย โดยอาการมักเกิดขึ้นหลังกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานๆ

กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของอาการขัดเบา แต่อย่างไรก็ตามยังมีโรคอื่นๆ อีกหลายชนิดที่อาจมีอาการแสดงคล้ายกับโรคนี้ หากสงสัยควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัด เช่น
- นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการขัดเบาร่วมกับการถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด
- กรวยไตอักเสบ ผู้ป่วยจะมีไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่นข้น ปวดเจ็บตรงสีข้างหรือเอวด้านใดด้านหนึ่ง และอาจมีอาการขัดเบา ถ้ามีกระเพาะอักเสบร่วมด้วย
- เบาหวาน ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายปัสสาวะออกมาทีละมากๆ ปัสสาวะมีสีใส ไม่มีอาการแสบขัด ที่สำคัญจะมีอาการกระหายน้ำและหิวข้าวบ่อย อาจมีอาการอ่อนเพลีย น้ำหนักลดร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้จะไม่พบในคนที่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

          

วิธีบรรเทาอาการโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบด้วยตัวเอง

    1. ควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ ประมาณวันละ 3-4 ลิตร เมื่อไม่มีโรคที่ต้องจำกัดน้ำดื่ม (เช่น โรคหัวใจล้มเหลว) ซึ่งการดื่มน้ำจะช่วยขับเชื้อโรคออกและลดอาการปวดแสบปวดร้อนเวลาปัสสาวะได้

    2. ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจทำให้ได้ยาที่ไม่ตรงกับชนิดของเชื้อโรค หรือขนาดและระยะเวลาในการใช้ยาไม่ถูกต้อง จึงอาจส่งผลให้โรคไม่หาย และอาจกลายเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังจากเชื้อดื้อยาได้

    3. ไม่ควรดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม กาแฟ แอลกอฮอล์ ของเค็ม มากเกินไป เพราะทำให้ปัสสาวะบ่อย จนอาจเกิดการติดเชื้อได้

    4. ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เวลาปัสสาวะต้องไม่รีบเร่ง ควรปัสสาวะจนหมด หรือให้เหลือน้ำปัสสาวะน้อยที่สุด โดยปัสสาวะสองจังหวะ คือหากรู้สึกหมดแล้ว รอสักครู่ โน้มตัวไปข้างหน้า จะปัสสาวะส่วนที่เหลืออีกได้

    5. วิธีที่ได้ผลดีที่สุด คือ ดื่มชาสมุนไพรตอนตื่นนอนตอนเช้าและตอนท้องว่างๆ ซึ่งชาพระจันทร์ยิ้มเป็นชาที่มีกลิ่นหอม ดื่มง่าย รสชาติไม่ฝาดเฝื่อน เพียงวันละ 2 ซองแช่เท่านั้น ใบชามีฤทธิ์กระตุ้นให้ขับปัสสาวะมากขึ้น ล้างพิษขับของเสียออกจากร่างกาย รักษาสมดุลระบบปัสสาวะและระบบขับถ่ายให้กลับมาเป็นปกติ

ขอแนะนำให้ท่านดูวีดีโอให้จบ คุณจุไรรัตน์ จังหวัด มีโรคประจำตัว คือ โรคปัสสาวะอักเสบ รู้สึกปวดหน่วงท้องน้อยเวลาปัสสาวะ ลามไปถึงปวดหลัง หลังดื่มชาพระจันทร์ยิ้มวันแรกรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ ครบ 7 วัน อาการปัสสาวะอักเสบหายเป็นปกติ ไม่ต้องพบคุณหมออีกเลย ปัจจุบันคุณจุไรรัตน์มีสุขภาพแข็งแรง สดชื่นกระปรี่กระเปร่า มีพละกำลังในการทำงาน โรคปัสสาวะอักเสบไม่กลับมาอีกเลย