เขียนเมื่อ : วันศุกร์ ที่ 21 เดือน เมษายน พ.ศ.2560 | อ่านแล้ว : 1,363 ครั้ง

เข้าใจโรคไตและแนวทางการรักษา


โรคไต มีอะไรเป็นปัจจัยเสี่ยง?
-กรรมพันธุ์ โรคไตบางชนิดเกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์ เช่น โรคไตเป็นถุงน้ำ (Polycystic Kidney UFABET Disease) ที่มีทั้งแบบที่เกิดกับทารก ซึ่งมักจะทำให้เด็กเสียชีวิตตั้งแต่เกิด และแบบที่เกิดกับผู้ใหญ่ ที่จะพบความผิดปกติเมื่ออายุ 20-30 ปีขึ้นไป
-โรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงจะส่งผลกระทบต่อไตด้วย หากเป็นนาน ๆ ไตก็เสื่อมลง จนถึงขั้นไตวายเรื้อรัง ซึ่งเชื่อไหมว่าผู้ที่เป็นไตวายเรื้อรัง ราว 30-50% ล้วนเกิดจากมีความดันโลหิตสูงทั้งสิ้น
-อายุ เมื่อคนเราแก่ตัวขึ้นสังขารร่างกายก็ร่วงโรยไปตามวัย เช่นเดียวกับไต ที่จะเริ่มเสื่อมตั้งแต่อายุ 35 ปี เท่ากับว่ายิ่งอายุมากขึ้น ไตก็จะยิ่งเสื่อมตามอายุลงไปด้วย
-อาหาร อาหารหลายชนิดที่หากรับประทานเข้าไปมาก ๆ จะยิ่งเป็นอันตรายต่อไต โดยเฉพาะอาหารรสเค็มจัดที่จะไปทำให้ความดันโลหิตสูง ทำให้ไตที่มีหน้าที่กรองของเสียทำงานหนักมากขึ้น

โรคไตห้ามกินอะไร อาหารที่มีโซเดียมมากเกินไป ต้องหลีกเลี่ยง พูดเรื่องอาหารเค็ม ๆ มาหลายบรรทัดแล้ว เชื่อว่าหลายคนยังอยากรู้ว่า นอกจาก "เกลือ" แล้ว ยังมีอาหารอะไรบ้างที่มีโซเดียมมากจนเป็นอันตรายต่อไตของคุณ มาลองดูกัน
- อาหารที่มีรสเค็มทั้งหลาย เช่น เกลือป่น น้ำปลา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊ว พริกน้ำปลา ซอสปรุงรส ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ ซอสเปรี้ยว ๆ ทั้งหลาย
- อาหารดองเค็ม เช่น กุ้งแห้ง กะปิ ผลไม้ดอง ผักดอง ปลาเค็ม เนื้อแดดเดียว
- อาหารดองเปรี้ยว เช่น หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง ไส้กรอกอีสาน แหนม กระเทียมดอง
- อาหารที่มีรสหวานและเค็มจัด เช่น ปลาหวาน กุ้งหวาน หมูหย็อง หมูแผ่น กุนเชียง ผลไม้แช่อิ่ม
- อาหารที่ใส่ผงฟู เช่น เค้ก ซาลาเปา ขนมปังโฮลวีท เบเกอรี่ต่าง ๆ
รับทราบเรื่องของโรคไต โรคที่เป็นได้จากการไม่เลือกทานอาหารแบบนี้แล้ว คงรู้แล้วใช่ไหมว่า ถ้าไม่อยากทรมานกับโรคไต จำไว้ว่าต้องลดการกินเค็มลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ลดการดื่มแอลกอฮอล์ หมั่นดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นความดันโลหิตสูง หรือเบาหวาน เพราะ 2 โรคร้ายนี้จะนำโรคไตมาสู่คุณอีกไม่นานแน่นอน