เขียนเมื่อ : วันจันทร์ ที่ 31 เดือน กรกฎาคม พ.ศ.2560 | อ่านแล้ว : 873 ครั้ง

ปัสสาวะเลือด เช็กให้ไว เกิดจากอะไรได้บ้าง


ปัสสาวะเป็นเลือด อาการที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคต่างๆ ที่อาจรุนแรงถึงขั้นมะเร็ง ปัสสาวะเป็นเลือด จะมีอาการปัสสาวะเปลี่ยนสี เป็นสีแดง สีน้ำล้างเนื้อ หรือสีน้ำตาลดำคล้ำแตกต่างกันไป เนื่องจากอาการผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ (ไต เนื้อไต กรวยไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ และต่อมลูกหมาก) ทำให้มีเม็ดเลือดแดงปนออกมากับปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือไม่เจ็บปวดก็ได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสาเหตุที่ต่างกัน โดยปกติจะไม่มีอาการเจ็บปวด แต่ถ้าปัสสาวะแล้วมีลิ่มเลือดปนออกมาด้วยก็อาจทำให้ปวดที่บริเวณท้องน้อยได้ค่ะ

ปัสสาวะเป็นเลือด มีลักษณะอย่างไรบ้าง?
1.เลือดสีแดงสด หรือสีแดงคล้ำ
- เลือดซึมตอนเริ่มปัสสาวะ การที่มีเลือดออกแบบนี้บ่งบอกถึงอาการท่อปัสสาวะเป็นแผลหรือฉีกขาด จะมีอาการปวดเวลาถ่ายปัสสาวะ อาจมีหนองและสามารถติดเชื้อได้ด้วย
- เลือดออกตอนเริ่มปัสสาวะ ถ้ามีเลือดออกแค่ตอนเริ่มแรก แต่ตอนหลังๆ ไม่มี อาจมีเหตุผลเหมือนกับเลือดซึมตอนเริ่มปัสสาวะ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ชัด
- เลือดออกตอนท้ายปัสสาวะ ปัสสาวะที่มีเลือดออกในลักษณะนี้ มักเกิดจากอาการเลือดออกในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งมีสาเหตุมาจากนิ่วหรือเนื้องอก หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะกระเพาะปัสสาวะอักเสบมาก รวมทั้งอาการผิดปกติที่ต่อมลูกหมาก โดยอาการเหล่านี้มักจะมีอาการอื่นๆ เช่นปวดท้องน้อย หรือปัสสาวะสะดุดร่วมด้วย
- เลือดออกตลอดเวลาที่ปัสสาวะ อาการลักษณะนี้ส่วนมากมาจากภาวะเลือดออกในไต หรือกรวยไต หรือเลือดออกมากๆ ในกระเพาะปัสสาวะก็เป็นได้

2. ปัสสาวะสีน้ำล้างเนื้อ ปัสสาวะที่มีสีแดงเรื่อๆ แบบสีน้ำล้างเนื้อ และถ่ายออกมาเป็นสีเดียวกันตั้งแต่เริ่มยันจบ โดยหากลองตั้งทิ้งไว้หลายๆ ชั่วโมงอาจเห็นตะกอนสีแดง ซึ่งก็คือเม็ดเลือดแดงนอนก้นอยู่ที่ก้นขวด อาการเช่นนี้มักเกิดจากภาวะไตอักเสบ

3. ปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ดำ ปกติแล้วปัสสาวะสีนี้ไม่ได้เกิดจากภาวะเลือดออกในระบบทางเดินปัสสาวะ แต่เกิดจากการสลายตัวของสารสีเม็ดเลือดแดง และสารสีของกล้ามเนื้อลาย ที่แปรสภาพและออกมาเป็นปัสสาวะ แต่ก็ควรนำไปตรวจเพื่อหาทางรักษาด้วยเหมือนกัน

ปัสสาวะเป็นเลือด ป้องกันได้ไหม?
อาการปัสสาวะเป็นเลือดไม่สามารถป้องกันได้โดยตรง แต่สามารถลดความเสี่ยงได้จากการป้องกันการติดเชื้อ และดูแลตัวเองให้แข็งแรง โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ควบคุมการบริโภคเกลือ โปรตีน และออกซาเลต (เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคนิ่ว) ออกกำลังกายเป็นประจำ งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงสารเคมีที่เป็นพิษ ไม่อั้นปัสสาวะ ดูแลความสะอาดบริเวณท่อปัสสาวะและควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม สำหรับใครที่มีอาการปัสสาวะเป็นสีอื่นๆ หรือมีกลิ่นแปลกไปจากปกติ ลองตรวจหรือพบแพทย์ดูหน่อยก็ดีค่ะ