เขียนเมื่อ : วันศุกร์ ที่ 7 เดือน กรกฎาคม พ.ศ.2560 | อ่านแล้ว : 865 ครั้ง

โยมสะดวก แต่พระอาจไม่สบาย


การทำบุญในปัจจุบันสามารถทำได้อย่างสะดวกและสบาย ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญผ่านการโอนเงินทางแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์ การส่งของใช้ที่สภาพยังใช้ได้ให้กับหน่วยงานต่างๆ ผ่านทางไปรษณีย์ หรือแม้กระทั่งซื้ออาหารชุดที่ทำสำเร็จไปใส่บาตรพระในเช้าก่อนทำงานก็ตาม

ซึ่งหากดูจากรายงานสถานการณ์ปัญหาโภชนาการในสงฆ์ ของโครงการสงฆ์ไทยไกลโรค ปี 2559 ที่สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จะพบว่า 5 โรคยอดฮิตของพระสงฆ์ไทยคือ โรคไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ปอด โรคหัวและหลอดเลือด ตามลำดับ ซึ่งสาเหตุของการเจ็บป่วยในพระสงฆ์เกิดจากการฉันอาหารที่มีไขมันสูงและดื่มน้ำปานะที่มีรสหวาน เฉลี่ย 2 แก้ว/วัน รวมถึงออกกำลังกายน้อย เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายของพระสงฆ์อย่างการเดินรอบวัด กวาดลานวัด ยังไม่เพียงพอสำหรับการเผาผลาญพลังงานในแต่ละวัน

เมื่อแม่ค้าเป็นมือหนึ่งในการประกอบอาหารและปรุงรสชาติ จึงนำเคล็ดลับการประกอบอาหารที่เป็นการปรุงอาหารด้วยความคำนึงและใส่ใจสุขภาพพระสงฆ์ไทย ด้วยการใส่สุขภาพ เสริมข้าวกล้อง เสริมผัก เสริมปลา เสริมนม สรร-ปานะและสรร-กิจนิมนต์ มาฝากดังนี้ค่ะ

1. เสริมข้าวกล้อง เพิ่มใยอาหารด้วยวิตามิน : ด้วยการผสมข้าวกล้องและข้าวขาวอย่างละครึ่ง ข้าวกล้องมีประโยชน์ต่อหัวใจ ลดความเสี่ยงไขมันอุดตันเส้นเลือด ช่วยระบบขับถ่าย และอุดมไปด้วยวิตามินบี เนื่องจากในข้าวกล้องมีสารเส้นใยสูงกว่าข้าวขาวถึง 3-7 เท่า
2. เสริมผัก หลากชนิด : ด้วยการบริโภคผักและผลไม้ 2 ส่วน ต่อข้าว 1 ส่วน และเนื้อสัตว์หรือไข่ 1 ส่วน เพราะผักและผลไม้มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง และเบาหวานได้มากในผักและแร่ธาตุ กากใยอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ทั้งนี้ผักในท้องตลาดมีหลากหลายชนิดด้วยกัน ยิ่งมีผักหลากหลายชนิดในเมนูอาหารก็ยิ่งมากไปด้วยประโยชน์ แต่น่าเสียดายที่พระสงฆ์ไม่ได้ฉันในปริมาณที่เพียงพอ เนื่องจากในอาหารตักบาตรไม่มีผลไม้ และญาติโยมไม่ได้นำมาถวาย ท่านจึงไม่ได้ฉันผักสดหรือผลไม้รสหวานน้อย อย่าง มะละกอ ฝรั่ง แอปเปิ้ล และสาลี
3. เสริมปลา ลาไกลมะเร็ง : ปลาเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ถือเป็นอาหารสุขภาพ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและมะเร็ง ซึ่งปลายังเป็นวัตถุดิบที่รังสรรค์อาหารได้หลากหลายเมนู อาทิ ปลาผัดขึ้นฉ่าย ปลานึ่งมะนาว ยำปลาสลิด เมี่ยงปลาทู เป็นต้น อีกทั้งยังมีกรรมวิธีการทำที่หลากหลาย ทั้งนึ่ง ต้มโคล้ง ต้มยำ แกงส้ม ผัด ทอด ย่าง หรืออ่อม
4. สรรปานะ ลดน้ำตาล : น้ำปานะ หรือ เครื่องดื่มที่จะช่วยบรรเทาความหิวขณะท้องว่างได้ ควรมีปริมาณน้ำตาลน้อยและมีโปรตีนอยู่ด้วย อย่างเช่น โยเกิร์ต นมวัว-นมถั่วเหลือง ทั้งนี้ควรเลือกชนิดไขมันต่ำ รสชาติจืดหรือหวานน้อยแทน
5. ลดเค็ม ลดมัน รสชาติไม่จัดจ้าน : เพื่อเป็นการรักษาสุขภาพพระสงฆ์ควรลดปริมาณการปรุง น้ำปลา เกลือ น้ำบูดู น้ำไตปลา ปลาร้า ปลาจ่อม รวมถึงควรใช้น้ำมันในปริมาณที่น้อย หรือเปลี่ยนเป็นกรรมวิธีการต้ม อบ ตุ๋น นึ่ง แทน

(ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ)