เขียนเมื่อ : วันพฤหัสบดี ที่ 22 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2560 | อ่านแล้ว : 907 ครั้ง

“น้ำยาบ้วนปาก” ใช้ไม่ถูกวิธี เสี่ยงช่องปากพังหนักกว่าเก่า


การดูแลทำความสะอาดช่องปาก ทำได้ง่ายๆ เพียงแปรงฟัน แต่ในความง่ายก็ยังมีความยากซ่อนอยู่ เพราะหลายคนยังแปรงฟันไม่สะอาด จนก่อให้เกิดโรคฟันผุ เหงือกอักเสบและอื่นๆ ตามมา ดังนั้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจเหงือก และฟันของเราได้รับการดูแลเป็นอย่างดี จึงมีนวัตกรรม น้ำยาบ้วนปาก ออกมา น้ำยาบ้วนปากก็ใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่ยังไม่หลายคนที่ใช้น้ำยาบ้วนปากไม่ถูกต้องอีกเช่นกัน จนเสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพในภายหลังได้

อันตรายจากการใช้น้ำยาบ้วนปากไม่ถูกต้อง
1.ห้ามใช้น้ำยาบ้วนปากแทนการแปรงฟัน เพราะการใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นเพียงเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นให้กับช่องปากเพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่คราบจุลินทรีย์ เศษอาหาร และอื่นๆ ยังคงอยู่ตามซอกเหงือกซอกฟัน รวมไปถึงกระพุ้งแก้ม ลิ้น และอื่นๆ ดังนั้นควรใช้น้ำยาบ้วนปากเพิ่มเติมหลังจากแปรงฟัน แล้วเท่านั้น (ถ้าไม่สามารถแปรงฟันได้ ควรใช้ไหมขัดฟัน แล้วจะต่อด้วยน้ำยาบ้วนปากก็ได้)

2.น้ำยาบ้วนปาก ไม่สามารถรักษาอาการต่างๆ ของโรคในช่องปากได้ หลายคนอาจใช้ในการอมไว้บริเวณเหงือก หรือจุดที่มีฟันผุ เพื่อหวังจะช่วยลดอาการเหงือกบวมอักเสบ หรือรักษาฟันผุได้ รวมไปถึงอาการเสียวฟัน ที่แม้ว่าน้ำยาบ้วนปากจะมีส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องของอาการเสียวฟัน แต่หากเป็นอาการเสียวฟันที่มีสาเหตุมาจากคอฟันสึก แล้วเราใช้น้ำยาบ้วนปากช่วย แล้วเพิกเฉยต่ออาการดังกล่าว อาจทำให้เราไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีจากแพทย์ และอาการคอฟันสึกก็แย่ลง ไม่อุดคอฟัน จนทำให้คอฟันสึกลึกลงไปถึงโพรงประสาทฟัน จนปวดฟัน แล้วต้องเปลี่ยนไปรักษารากฟันแทนการอุดคอฟันที่รักษาง่ายกว่า หรือหากเป็นโรคปริทันต์อักเสบ น้ำยาบ้วนปากก็ไม่ได้ช่วยรักษาโรคจากต้นเหตุจริงๆ หากปล่อยไว้อาจทำให้เราเพิกเฉยต่อโรคจนมีอาการหนักมากขึ้นเรื่อยๆ

3.หากใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อยเกินไป อาจเข้าไปทำลายเชื้อแบคทีเรียดีๆ ที่อาศัยอยู่ในปาก และอาจก่อให้เกิดเชื้อราภายในปากตามมาภายหลังได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ฟันเกิดคราบหินปูนได้ง่าย ตุ่มรับรสชาติจากลิ้นเพี้ยนไป และสีเคลือบผิวฟันเปลี่ยนอีกด้วย

4.หากเลือกใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือกรดแรงจนเกินไป อาจทำให้เยื่อบุภายในช่องปากระคายเคือง ผิวฟันบางลง จนอาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันตามมา

น้ำยาบ้วนปาก ช่วยให้ช่องปากของเราหอมสดชื่น แต่ไม่ได้ช่วยรักษาโรค และอาการผิดปกติต่างๆ ในช่องปากแต่อย่างใด หากมีอาการเหงือกบวมอักเสบ ฟันผุ มีแผลในช่องปาก เหงือกร่น หรือปัญหาอื่นๆ ควรไปพบทันตแพทย์ และควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุกๆ 6 เดือนค่ะ

( ขอบคุณข้อมูล : Dr. Dentist Dental Clinic )