เขียนเมื่อ : วันอังคาร ที่ 7 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2564 | อ่านแล้ว : 595 ครั้ง

อย. เตือนผู้บริโภคอย่าทานอาหารที่เลยวัน หมดอายุ หรือ ควรบริโภคก่อน


  คณะกรรมการอาหารและยา แนะผู้บริโภค สังเกตวัน “ควรบริโภคก่อน” และ “หมดอายุ” บนฉลากอาหาร หากเลยกำหนดเวลาที่ระบุ ไม่แนะนำให้บริโภคอาหารนั้น ชี้คุณภาพอาหารเสื่อมลง และเสี่ยงต่อสุขภาพ

  วันที่ 5 ธ.ค. 2564 นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่โพสต์ “รู้หรือไม่ บนฉลากอาหาร BB/BBE ≠ EXP” บนสื่อออนไลน์ โดยคนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับข้อความที่ระบุบนฉลาก “ควรบริโภคก่อน” (BB/BBE) และ “หมดอายุ” (EXP) นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงว่า “วันที่หมดอายุ” หรือ EXP/ EXD ย่อมาจาก Expiry Date /Expiration Date เป็นวันที่บ่งบอกถึงวันที่อาหารหมดอายุ เพราะหลังจากวันนั้นเป็นต้นไป อาหารจะเริ่มบูดหรือเน่าเสีย และไม่ปลอดภัยในการบริโภค ฉะนั้น จึงไม่ควรรับประทานอาหารนั้นหลังจากวันที่กำหนดบนฉลากว่าหมดอายุแล้ว ส่วนวันที่ ควรบริโภคก่อน “Best before...” หรือ “Best before end...” (BB/BBE) เป็นวันที่บ่งบอกว่าอาหารนั้นยังคงมีคุณภาพและมีรสชาติที่ดีเหมือนเดิมจนถึงวันที่ระบุไว้ ซึ่งหลังจากวันที่กำหนดรสชาติและคุณภาพของอาหารจะเปลี่ยนแปลงไป

  ทั้งนี้ ผู้ผลิตต้องทำการศึกษาอายุการเก็บรักษาของอาหารที่ตนผลิต เนื่องจากมีหลายปัจจัยเกี่ยวข้อง ได้แก่ คุณลักษณะของอาหารชนิดนั้นๆ เช่น ปริมาณน้ำอิสระในอาหาร (Aw) และค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) กระบวนการผลิต โดยเฉพาะอุณหภูมิและระยะเวลาในกระบวนการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ชนิด และคุณสมบัติของบรรจุภัณฑ์ และการเก็บรักษา

  หากจะบริโภคอาหารหลังจากวันที่ควรบริโภคก่อน ผู้บริโภคควรพิจารณาว่า อาหารดังกล่าวมีลักษณะ กลิ่น สี และรสชาติเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ เช่น มีเส้นใยหรือจุดของเชื้อรา หรือมีลักษณะเป็นเมือก หากพบว่าอาหารนั้นมีลักษณะไม่พึงประสงค์ก็ไม่ควรบริโภค สำหรับอาหารที่มีอายุการเก็บรักษาสั้น และต้องเก็บรักษาไว้ในที่เย็นตลอดเวลา เช่น นม และน้ำผลไม้พาสเจอร์ไรส์ ไม่ควรรับประทานหลังวันหมดอายุ หากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภคขอให้ร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน อย. โทร. 1556 หรือ E-mail: 1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือร้องเรียนผ่าน Line/Facebook: FDAthai หรือ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : thairath