เขียนเมื่อ : วันเสาร์ ที่ 4 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2564 | อ่านแล้ว : 588 ครั้ง

แนะผู้ป่วยวัณโรคปอด ไม่ควรหยุดยาเองโดยเด็ดขาด


  กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก แนะผู้ป่วยวัณโรคปอดไม่ควรหยุดรับประทานยาเองโดยเด็ดขาด หากพบผื่นที่ผิวหนัง หูหนวก เวียนศีรษะ ดีซ่าน การมองเห็นผิดปกติ ช็อก ปัสสาวะออกน้อย หรืออาการผิดปกติอื่นๆจากการรับประทานยารักษาวัณโรค ควรรีบพบแพทย์ทันที

  นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์
กล่าวว่า วัณโรค เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของอวัยวะทั่วร่างกาย อาทิเช่น ต่อมน้ำเหลือง กระดูกสันหลัง ข้อ ลำไส้ เยื่อหุ้มสมอง แต่ที่พบมากที่สุด คือ ที่ปอด การติดต่อและการแพร่กระจายของวัณโรคเข้าสู่ร่างกาย เกิดจากผู้ที่รับเชื้อหายใจรับเชื้อโรคที่ปะปนอยู่ในละอองฝอยล่องลอยในอากาศเข้าสู่ปอด ในขณะที่ผู้ป่วยวัณโรคไอ จาม บ้วนน้ำลาย ขากเสมหะ ซึ่งผู้ป่วยวัณโรคปอดมักจะมีอาการสำคัญ ได้แก่ ไอแห้ง ๆ เรื้อรังติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์ขึ้นไปอาจมีเลือดออกร่วมด้วย น้ำหนักลด เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีไข้ช่วงบ่าย หรือตอนเย็น และเหงื่อออกมากในตอนกลางคืน

  นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วัณโรคสามารถรักษาหายได้ หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และรับประทานยาต่อเนื่องจนครบแผนการรักษา เนื่องจากขั้นตอนการรักษาจะต้องใช้ยาหลายชนิดร่วมกันและใช้เวลา ผู้ป่วยบางรายอาจพบอาการไม่พึงประสงค์จากการรับประทานยาวัณโรคปอด โดยอาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่เกิดกับทุกคนที่รับประทานยารักษาวัณโรค ซึ่งผลข้างเคียงจากการรับประทานยาวัณโรคแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

  1. ผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น พบผื่นที่ผิวหนัง หูหนวก เวียนศีรษะ ดีซ่าน สับสน การมองเห็นผิดปกติ ช็อก ปัสสาวะออกน้อย ผู้ป่วยต้องหยุดรับประทานยาทุกชนิดทันที และรีบมาพบแพทย์

  2. ผลข้างเคียงที่เกิดอาการผิดปกติเล็กน้อย เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ง่วง อาการคล้ายเป็นหวัด ผู้ป่วยไม่ต้องหยุดรับประทานยา แต่ควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ทำการพิจารณาการรักษาเพิ่มเติม เมื่อรักษาไประยะหนึ่งและอาการทุเลาลงผู้ป่วยไม่ควรหยุดรับประทานยาเอง เนื่องจากจะทำให้เชื้อวัณโรคพัฒนาขึ้นส่งผลให้เชื้อทนต่อยาที่เคยรักษา จนเกิดอาการวัณโรคดื้อยา ส่งผลต่อการรักษาโรคได้

  ดังนั้น ปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ ผู้ป่วยต้องให้ความร่วมมือในการรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง และหมั่นสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการผิดปกติให้รีบมาพบแพทย์ทันที ไม่ควรหยุดยาเองโดยเด็ดขาด

  สำหรับข้อควรระวังในการใช้ยาในผู้ป่วยวัณโรค มีดังนี้

  1. หญิงที่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร ควรแจ้งแพทย์ทุกครั้ง

  2. ควรรับประทานยาพร้อมน้ำเปล่า (งดนม) ก่อนหรือหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 2 ชม. เพื่อให้การดูดซึมมีประสิทธิภาพ

  3. หากลืมรับประทานยาภายใน 12 ชั่วโมง สามารถรับประทานยาได้ตามปกติ หรือหากลืมรับประทานยาเกิน 12 ชม. ให้ข้ามมื้อนั้นไปและรับประทานมื้อต่อไปตามปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยกลับมาป่วยเป็นวัณโรคซ้ำ

  ผู้ป่วยควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำแนวทางการรักษาของแพทย์อย่างเคร่งครัด และควรดูแลตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ หมั่นตรวจสุขภาพปีละ 1- 2 ครั้ง ควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท งดการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหมั่นสังเกตอาการตนเองหากพบว่ามีอาการไอเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ หรือมีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ควรรีบพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยโรค



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : thaihealth