รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เผยสาเหตุเตรียมเพิ่มกลุ่ม "โรคความดันโลหิตสูง" เข้ากลุ่มเสี่ยงต้องรับวัคซีน เพราะเมื่อติดโควิด-19 จะมีอาการรุนแรงคล้ายกลุ่มสีเหลือง และมีรายงานผู้ป่วยโรคนี้เสียชีวิตหลังติดโควิดมากที่สุด
นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์กับ "ไทยพีบีเอส" ถึงกรณีเตรียมเพิ่มกลุ่มโรคเรื้อรังที่ต้องเข้ารับวัคซีน โดยจะเพิ่ม "โรคความดันโลหิตสูง" เข้าไปด้วย
ความเสี่ยง "โรคความดันโลหิตสูง" กับโควิด-19
นพ.ปรีชา : ความดันโลหิตสูง เป็นกลุ่มที่ทำให้เกิดระบบเส้นเลือดแข็งตัว ทำให้หัวใจทำงานมากขึ้น และมีภาวะที่จะทำให้เส้นเลือดมีความผิดปกติ หากติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเข้าสู่ระบบปอด และส่งผลกับระบบไหลเวียนตามมา
"คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง จะมีปัญหาเรื่องระบบเส้นเลือดต่างๆ มากขึ้น ทำให้ระบบไหลเวียนได้ไม่ดี หากเชื้อลงปอด จะส่งผลให้การทำงานขอร่างกายแย่ลง"
ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ติดเชื้อโควิด-19 จะคล้ายกับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง ดังนั้นจึงต้องได้รับยาเพื่อฆ่าไวรัสให้เร็วที่สุด โดยจะให้ยาฟาวิพิราเวียร์ ร่วมกับยาในกลุ่ม Steroid, Dexamethasone เพื่อลดการอักเสบ เนื่องจากกลุ่มนี้มีโอกาสที่โรคจะรุนแรงขึ้น
ส่วนการฉีดวัคซีน ต้องรอให้หายก่อนอย่างน้อย 1 เดือน จึงจะสามารถให้วัคซีนกระตุ้นได้
เพราะอะไรผู้ป่วยความดันโลหิตสูงติดโควิดเสียชีวิตมาก?
นพ.ปรีชา : ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ได้รับเชื้อโควิด-19 มีปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดอาการรุนแรงขึ้น โดยคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง จะสัมพันธ์กับกลุ่มสูงอายุ และโรคที่ตามมาจากความดันโลหิตสูง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง เส้นเลือดสมองตีบ และโรคหัวใจ เป็นต้น
ความดันโลหิตสูงเกิดได้กับทุกโรค ที่เป็นโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค จึงทำให้พบผู้ป่วยหรือผู้เสียชีวิตจากความดันโลหิตสูงจำนวนมาก
จากข้อมูลพบว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงจำนวนมาก ซึ่งมากกว่าผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือเกิน 20 % ของประชากร จึงเป็นปัจจัยร่วมที่มีความสำคัญ
ส่วนกลุ่มที่มีอายุไม่เยอะมาก หากมีความดันโลหิตสูงจะมีความเสี่ยงไม่มาก แต่หากมีโรคอื่นมาประกอบก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้น
"ในรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทุกวัน จะพบว่าโรคความดันโลหิตสูง มีสัดส่วนที่สูงขึ้น แต่จริงๆ ก็มีปัจจัยอื่นร่วมด้วย"
ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ระบุว่า นอกจากโรคความดันโลหิตสูงที่มีสัดส่วนผู้เสียชีวิต หลังติดเชื้อโควิด-19 มากเป็นอันดับ 1 แล้ว รองลงมาพบว่าเป็นโรคเบาหวาน ภาวะอ้วน โรคไต และโรคหลอดเลือดสมอง ตามลำดับ
ขณะที่ "ความดันโลหิตสูง" ไม่ได้ถูกจัดอยู่ใน 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่รับลงทะเบียน เนื่องจากไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง จึงทำให้ถูกจัดไปอยู่ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีน
ไม่เป็น 7 โรคเรื้อรัง ลงทะเบียนฉีดวัคซีนได้ไหม?
นพ.ปรีชา : หากเป็นกลุ่มที่มีภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ทันที ขณะนี้ได้เร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง จากนั้นจะกระจายไปสู่โรคเรื้อรังอื่นๆ ที่ครอบคลุมมากขึ้น
ส่วนเหตุผลที่ยังไม่ได้ระบุให้ "โรคความดันโลหิตสูง" อยู่ใน 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เนื่องจากช่วงแรกต้องป้องกันผู้ที่มีโรคเรื้อรังประกอบกันหลายๆ โรคก่อน
ฉีดวัคซีนแล้ว ช่วยลดหรือเพิ่มความเสี่ยง?
นพ.ปรีชา : วัคซีนโควิด-19 ช่วยป้องกันให้เชื้อลงปอดได้น้อยลง และระบบไหลเวียนทำงานได้ปกติ โดยจะช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสที่จะทำลายปอด และลดจำนวนของไวรัสในร่างกาย
ส่วนความกังวลว่าจะเกิดผลกระทบหลังฉีดวัคซีนหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะวัคซีนที่ใช้ในขณะนี้ถือเป็นตัวใหม่ ที่ใช้เวลาในการผลิตเพียงปีเดียว ยังไม่มีองค์ความรู้เพียงพอเกี่ยวกับผลกระทบที่จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น หรือโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งจะต้องเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : thaipbs