เขียนเมื่อ : วันศุกร์ ที่ 9 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 | อ่านแล้ว : 1,085 ครั้ง

กลางวันไม่ตื่น กลางคืนไม่นอน เร่งวันตายด้วย


หนุ่มสาววัยมหาลัยและคนวัยทำงานจำนวนไม่น้อย มักเคยชินกับการทำงานตอนดึก หามรุ่งหามค่ำ เพราะเหตุผลที่ว่าตอนกลางคืนเป็นเวลาที่เงียบสงบ ทำให้มีสมาธิสมองลื่นไหลกว่าตอนกลางวันเป็นไหนๆ คิดอะไรก็คิดออกได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนื่อยแถมไม่ง่วงอีกด้วย แต่รู้ไหมว่าการทำงานตอนกลางคืนโดยไม่หลับไม่นอน ทำให้ชีวิตตอนกลางวันของคุณ “พัง” ถึงคุณจะได้งาน ได้เงิน แต่ระวังจะได้ “โรค” แถมไปด้วย การร่าเริงตอนกลางคืนแบบนี้ อาจทำให้ร่างกายของคุณก่อ “โรคร่าเริง” ขึ้นมาได้

คุณกำลังสุ่มเสี่ยงเป็นโรคนี้อยู่หรือเปล่า การใช้ชีวิตของคุณที่เสี่ยงเป็น “โรคร่าเริง”
กลางคืน > คิดงานได้ก่อนนอน ไอเดียพรั่งพรู ทำงานสนุกทั้งคืนโดยไม่เบื่อไม่บ่น ไม่ออกกำลังกาย ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังโดยอ้างว่าทำให้สมองแล่น
กลางวัน > อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย ไม่มีสมาธิ คิดอะไรก็คิดไม่ออก

ถึงชื่อโรคจะดูร่าเริงสนุกสนาน แต่ร่างกายของเราไม่ได้จะเริงร่าตามชื่อแม้แต่น้อย ซึ่งนอกจากจะทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน รอบเดือนไม่ปกติ ขี้เหวี่ยงขี้วีน อาจทำให้สุ่มเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านมและโรคเบาหวานได้ จัดระบบชีวิตใหม่ซะ เสริมสร้างภูมิต้านทาน “โรคร่าเริง”
1. ตั้งนาฬิกาปลุกเวลาเดิมๆทุกๆวัน เพื่อสร้างความเคยชิน แต่ไม่ใช่ว่าปลุกตอนเที่ยงหล่ะ

2. หลีกเลี่ยงแป้ง น้ำตาล เพิ่มเนื้อสัตว์ในมื้อกลางวัน เพราะแป้งและน้ำตาลนั้นเป็นตัวกระตุ้นให้สมองหลั่งสาร เซโรโทนิน มากเกินไปซึ่งทำให้ง่วงนอน

3. ออกกำลังกายแบบง่ายๆ บ่อยๆ เช่น การเดิน การแกว่งแขน หรือออกกำลังกายอย่างจริงจังทุกวัน

4. ฟังเพลงระหว่างวัน เพื่อเพิ่มความตื่นตัวแก้ง่วง

5. จิบน้ำเปล่า ทำให้สมองแล่น เพราะน้ำเป็นตัวลดความหนืดของเลือด ทำให้ไม่ง่วงนอน

6. นำผลมะกรูด คลึงกับพื้นมาวางไว้ข้างหมอน ทำให้หลับสบาย ตื่นมาแล้วสดชื่นกระปรี้กระเปร่า



ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://infographic.in.th/